เอื้องอั่วพวงมณี คาลันเท Calanthe
คาลันเท , เอื้องอั่วพวงมณี (Calanthe) คาลันเท เป็นกล้วยไม้พื้นเมืองของเรานี่เองครับ บางท่านเรียกกล้วยไม้ชนิดนี้ว่า เอื้องน้ำเต้า เนื่องจาก หัวของเจ้า คาลันเท ดันไปมีรูปร่างคล้ายน้ำต้นนี่เอง จึงกลายเป็นที่มาของชื่อที่หลายคนชอบเรียกกัน
คาลันเท พบได้ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศไทย ของเราตั้งแต่เหนือจรดใต้เลยครับ มันมีเขตกระจาย พันธุ์ในทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เราจะพบคาลันเทได้แทบทุกภาคในบ้านเรา
ลักษณะโดยทั่วไป คาลันเทจะมีหัวโผล่ออก มาจากดินให้เราเห็นเป็นจุกเหมือนกับหัวน้ำต้น หัว ของคาลันเทจะทำหน้าที่เก็บ อาหารเช่นเดียวกับพืชที่มี หัวใต้ดินทั่วไป แต่คาลันเทบางชนิดก็ไม่มีหัวครับ
ดินที่คาลันเทโปรดปรานจะเป็นดินร่วนปนใบไม้ผุ การปลูกเรามักเลียนแบบธรรมชาติโดยผสม มะพร้าว สับลงไปกับดินมาก ๆ เอาแบบว่าเทน้ำลงไปแล้ว น้ำ ไหลออกก้นกระถางได้ทันทีจะดีที่สุด
หากคุณปลูก คาลันเท โดยใช้ดินทั้งหมด ดินจะกักเก็บน้ำเป็นจำนวนมากทำให้การละบายน้ำเป็นไปด้วยช้า น้ำอาจ จะขังอยู่ในกระถางอยู่นาน ซึ่งเป็นผลทำให้หัวของ คาลันเท เน่าได้นั่นเองครับ ดังนั้น เทคนิคการปลูกคาลันเท เราจำ เป็นต้องหาวัสดุปลูกอื่นผสมลงไปด้วย หากคุณเลือกใช้กาบมะพร้าวปลูกคุณควรแช่กาบมะพร้าวสับที่ได้มานั้นลง ในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 คืน เพื่อให้ยางมะพร้าวเจือจางลง และทำให้กาบมะพร้าวกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น หาก คุณไม่แช่กาบมะพร้าว ยางของมะพร้าวจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การเจริญเติบโตของ คาลันเท หยุดชงักลง !
TIP หากเป็นไปได้ ลองหาใบก้ามปูผสมลงไปกับเครื่องปลูก ไม่ต้องใส่มากครับ เมื่อเวลาผ่านไป ใบก้ามปูจะกลาย เป็นสารอาหารอันยอดเยี่ยมให้กับคาลันเท เนื่องจากคาลันเทชอบดินที่มีฮิวมัส*สูงนั่นเองครับ
**ฮิวมัส คือ อินทรีย์วัตถุที่ถูกเปลี่ยนรูปร่างให้มี ขนาดเล็กอย่างสมบูรณ์แบบ โดย จุลินทรีย์และสารเคมี มีโครงสร้าง สลับซับซ้อนคงทนต่อการสลายตัว รูปร่างไม่แน่นอน มีสีน้ำตาล หรือน้ำตาลดำ มีองค์ประกอบทางเคมี คือ คาร์บอน ไฮโตรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส กำมะถัน และธาตุอื่น ๆ
สำหรับเรื่องของแสง คาลันเท ไม่ชอบพื้นที่ที่มีแสงสว่างจัด ควรหลีกเลี่ยงอย่าวางกระถางคาลันเทในบริเวณที่มีแดด ลงตรง ๆ พื้นที่ที่เหมาะสมคือสภาพแสงรำไรครับ
การขยายพันธุ์ สามารถทำได้ 3 วิธีดังนี้
- การหักจุกที่หัว ลองดูภาพด้านบนประกอบนะครับ ตรงลูกศรสีส้มในภาพ หากหักจุกตรงนั้นไปชำ เราจะได้ คาลันเท ต้นใหม่ง่าย ๆ เลย หรือ จะแยกหัวก็ได้ครับ
- การเพาะเมล็ด คาลันเทถือฝักเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น เมื่อฝักของคาลันเทแตกออก ลองเคาะเมล็ดแก่นี้ลงบน กระถางที่เราปลูกคาลันเท พอระยะเวลาผ่านไป เมล็ดเหล่านี้จะงอกเป็นคาลันเทต้นใหม่ ได้เองครับ แต่ว่าจะงอก เพียง 2-3 ต้นเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าสภาพโรงเรือนของคุณจะเหมาะสมกับคาลันเทจริง ๆ ถึงจะยอมงอกออกมาหลาย ต้นให้ชมเชย
- การเพาะเมล็ด โดยการส่งแล็ปกล้วยไม้ การเพาะคาลันเทวิธีนี้ คุณต้องเก็บฝักคาลันเทก่อนที่ฝักจะแตกออกครับ โดยต้องนับวันนับคืน และกะระยะเวลาให้พอเหมาะ แล้วจึงนำส่งเพาะพันธุ์ในแล็ปกล้วยไม้ตามสถานที่ต่าง ๆ หลัง จากส่งเพาะแล้วอาจจะใช้เวลาเป็นปี กว่าจะกลายเป็น คาลันเท ต้นใหม่ แต่ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้ลูกไม้ คาลันเท ออก มาเป็นจำนวนมหาศาล แน่นอน แล็ปกล้วยไม้ก็ต้องเก็บค่าเพาะจากคุณ บางแล็ปอาจไม่ยินยอมให้คุณเพาะเพียง ขวดสองขวด ดังนั้น เมื่อคุณจะส่งเพาะกล้วยไม้สักต้น คุณพร้อมแล้วหรือยังกับค่าใช้จ่ายอันมหาศาลที่จะตามมา !
ข้อสังเกตุหลังการออกขวด คาลันเท
คาลันเทเป็นกล้วยไม้ที่มีใบค่อนข้างบาง สภาพ อุณหภูมิภายในขวด คาลันเทจะได้รับความชื้น 100% ใบจึงเขียวสวย
– เมื่อออกขวด ควรเปิดจุกทิ้งไว้ 1/2 – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ไม้ได้สัมผัสอากาศภายนอก และปรับตัว
– หลักจากออกขวดแล้ว อาการที่อาจพบคือ ปลายใบ จะมีลักษณะไหม้ หรือ แห้ง ทั้งนี้เกิดจาก คาลันเท คาย น้ำเป็นจำนวนมากออกมา เนื่องจากผิวใบที่อยู่ในขวดยังไม่สร้างสารเคลือบผิว ต่างจากคาลันเทในธรรมชาติ ที่จะสร้างสารเคลือบผิวแต่เริ่มงอก เนื่องจาก คาลันเท ในธรรมชาติ ต้องพบกับสภาพอากาศจริงตั้งแต่เกิด ใน ขณะที่ คาลันเท ที่เพาะพันธุ์โดยแล็ปกล้วยไม้ อยู่ใน ขวดปลอดเชื้อ และมีอาหาร และความชื้น คอยป้อน ตลอดเวลา
อีกกรณีคือ คาลั้นเทเป็นกล้วยไม้ใบบางเป็นธรรมชาติ อยู่แล้ว มันจึงทิ้งใบเหลือแต่หัวในช่วงฤดูพักตัว
ลองดูภาพด้านบนตามนะครับ ในภาพเป็น คาลันเท ที่ออกขวดแล้วพอปล่อยไปสักพักใบก็เริ่มดำ สุดท้ายก็ทิ้งใบ ไม่เหลือหลอ เมื่อเจอสภาพเช่นนี้ ไม่ต้องตกใจครับ เมื่อลูก คาลันเท เริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้แล้วก็จะเริ่ม ทยอยแตกหน่อใหม่ พร้อมกับผลิใบใหม่ที่สวยงามออกมาให้เราได้ชื่นชมกัน
การดูแล
สำหรับลูกคาลันเทออกขวดใหม่ สามารถใช้กาบมะพร้าวสับนำมาโรยในตะกร้า รดน้ำพอชื้น นำลูกคาลันเทลง ปลูก โดยให้กาบมะพร้าวสับกลบเพียงแค่รากของ คาลันเท เท่านั้น ห้ามฝังโคนลึก ไม่เช่นนั้น คาลันเทจะเน่าตายได้ ให้อนุบาลแบบนี้ไปจนกว่าคาลันเทจะเริ่มงอกรากใหม่หรือผลิใบใหม่ อาจกินเวลายาวนานหลายเดือน ผู้เลี้ยงต้องอด ทน และหมั่นคอยสังเกตุเสมอ เมื่อต้นเริ่มโตแล้ว ก็สามาถย้ายไปปลูกในกระถางขนาดเล็กได้ตามภาพด้านบนครับ
**เหตุที่ต้องใช้กระถางเล็กให้สมกับสัดส่วนในการปลูกก็เพื่อให้ความชื้นในกระถาง พอเหมาะพอดีกับขนาดต้น หาก ใช้กระถางใหญ่ วัสดุปลูกจะอุ้มน้ำและความชื้นมากเกินไป ทำให้หัว คาลันเท เน่าได้ครับ
ควรนำลูก คาลันเท ปลูกในบริเวณที่ร่มรำไร อย่าวางในที่ร่มทึบจนเกินไป และพยายามเลี่ยงแสงที่จัด หรือแดด ฟาดลงตรง ๆ
การให้น้ำลูกไม้คาลันเท ให้รดน้ำ 3 – 4 วัน/ครั้ง พยายามอย่าให้เครื่องปลูกแฉะจนเกินไป พยายามให้เครื่องปลูก ชื้น หากในระหว่าง 3-4 วันนี้สังเกตุว่าเครื่องปลูกแห้งเกินไปก็ให้รดน้ำเพิ่มได้ครับ
สำหรับคาลันเทที่โตแล้ว ให้รดน้ำ 1-2 วัน ต่อ 1 ครั้ง อย่าให้แฉะจนเกินไป ไม่เช่นนั้นหัว คาลันเท จะเน่าได้ครับ การให้ปุ๋ย ควรให้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครับ
**สำหรับกล้วยไม้รุ่นส่วนใหญ่ มักจะให้ปุ๋ยสูตรเสมอ และกลางสูงสลับกันไป หากเป็นไม้เล็กอาจจะให้สูตรหน้าสูง เพื่อกระตุ้นให้โตไว แต่สำหรับไม้เล็กแล้ว ควรให้ปุ๋ยบาง ๆ หากให้ปุ๋ยแรงเกินไป กล้วยไม้อาจช๊อคตายได้ครับ เหมือน เด็กทารกแต่ให้กินไก่ย่าง ส้มตำ ยังไม่ทันได้กินส้มตำ ไก่ย่างคงติดคอสำลักแย่เลยครับ
ฤดูกาลให้ดอก
คาลันเทมีฤดูกาลให้ดอกที่ยาวนานมาก ให้ดอกตั้งแต่หลังฤดูฝนเป็นต้นไป ราว ๆ สิงหาคม – กุมภาพันธ์ ของอีกปีกันเลยทีเดียวครับ แต่ว่า ไม่ใช่แทงดอกแล้วแทงอีกนะครับ ในช่วงเดือนที่กล่าวไป หมายถึง 1กอ จะให้ดอกเพียงครั้งเดียว แต่จะอยู่ในช่วงเดือนที่บอกไป แต่ละพื้นที่และชนิดพันธุ์ซึ่งจะให้ดอกแตกต่างกันไป ดอกของ คาลันเท ใน 1 ช่อดอก จะทยอยบานได้เป็นเดือน ๆ เชียวครับ
โรคและแมลง
ให้ระวังราเม็ดผักกาด เมื่อเครื่องปลูกหมดสภาพให้รีบเปลี่ยนใหม่ ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นที่กักเก็บเชื้อชั้นดี แมลงที่ต้องระวังได้แก่ เพลี้ยแป้ง, มด, เพลี้ยอ่อน แมลงจำพวกเพลี้ยจะดูดน้ำเลี้ยงของคาลันเท ทำให้เฉาตายได้ ส่วนมด จะเป็นตัวอันตรายกับเครื่องปลูก เมื่อมดมาทำรังในภาชนะปลูกมันจะทำให้คาลันเทชงักการเติบโต เมื่อคุณ สังเกตุพบว่า คาลันเท ของคุณมีอาการแปลก ๆ ทรุดโทรมลง ไม่มีเพลี้ยรบกวน ให้สังเกตุดูว่ามีมดเข้าไปทำรังใน ภาชนะปลูกหรือไม่ หากมีให้เปลี่ยนเครื่องปลูกใหม่ หากใช้เครื่องปลูกเดิม ไข่ของมดอาจจะติดมาและกลายเป็นมด ตัวใหม่คอยรังควาน คาลันเท ของเราอีกก็เป็นได้ครับ
สารกำจัดแมลง
การใช้สารกำจัด สามารถใช้ร่วมกับกล้วยไม้ทั่วไปได้ครับ
ในประเทศไทย มีคาลันเทอยู่ประมาณ ราว ๆ 11 ชนิด หรืออาจจะมีมากกว่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่ศึกษาในหนังสือ และค้นหาดู ก็เท่ากับที่ผมกล่าวไปข้างต้นครับ ทีนี้ก็มาดูกันดีกว่าว่า 11 ชนิดที่กล่าวมามีอะไรบ้าง
Calanthe masuca
พบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคใต้ ของไทยเป็นชนิด ที่ชอบอากาศเย็น ดังนั้นเลี้ยงบนพื้นราบคงไม่ไหวครับ พบขึ้นอยู่บนความสูง 2,000 – 2,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
Calanthe vestita
พบทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ขึ้นอยู่บนความสูง 600 – 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล
Calanthe rosea
พบในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคตะวันตกของไทย ตัวนี้เป็นไม้เลี้ยงร้อนได้ครับ เลี้ยงได้ในเมืองสบายครับ ชอบสภาพแวดล้อมร่มรำไร
ขึ้นอยู่บนความสูงตั้งแต่ 100 เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นต้นไป
Calanthe rubens
พบในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคตะวันตกของไทย ตัวนี้เลี้ยงร้อนได้ครับ ในเมืองก็เลี้ยงได้ ชอบสภาพแวดล้อมร่มรำไร สีสันตัวนี้ มีตั้งแต่ชมพูอ่อน ๆ ไปจนถึง เกือบแดงแบบในภาพเลยครับ
ขึ้นอยู่บนความสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเล
Calanthe cardioglossa
พบทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ชนิดนี้บางทีเราก็เรียกกันว่าเอื้อง น้ำเต้าครับ ขนาดดอกนั้นเล็กมาก ออกเป็นพรวง มีหลายสี ทั้งแดงชมพู เหลือง ตัวนี้ก็เลี้ยงไม่ยากครับ ในเมืองเลี้ยงได้สบาย ๆ
ขึ้นอยู่บนความสูง 400 – 1,900 เมตรจากระดับน้ำทะเล
Calanthe succedanea
พบในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ชนิดนี้จะคล้ายกับเอื้องน้ำต้นครับ แต่ดอกเขาจะใหญ่กว่า และ ถ้าสัง เกตุดี ๆ บริเวณปาก ชนิดนี้ปากจะบานเป็นวงกลม ในขณะที่ เอื้องน้ำต้น จะห่อเป็นเกรียวครับ แถมต้นนี้ดอกเดียวมี 2 สีอีกต่างหาก ตอนบานใหม่ จะเป็นสีชมพู พอดอกแก่ไปสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม น้ำตาล สุดท้ายก็เฉา ในที่สุด
Calanthe sp.
เป็นคาลันเทชนิดใหม่ พบในแถบภาคใต้ของไทย ตัวนี้เลี้ยงร้อนได้ ดอกมีขนาดเล็ก สีสันออกไปทางสีม่วงอ่อน ๆ ครับ
Calanthe triplicata
พบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย ดอกจะเล็ก ๆ และก่อช่อขึ้นเป็นทรงฉัตรครับ
ขึ้นอยู่บนความสูง 500 – 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล
Calanthe ceciliae
ชนิดนี้พบทางแถบภาคใต้ของไทยเราครับ เป็นชนิดที่มีเดือยยาวชี้ตั้งขึ้น ต่างจากชนิดอื่นที่เดือยจะชี้ลง
ขึ้นอยู่บนความสูง 500 – 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
Calanthe speciosa
พบทางแถบภาคใต้ของประเทศไทย